Translate

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561


เรื่องสั้น

รอยยิ้ม และ มิตรภาพ 
ของเธอ ทำให้ฉันอิ่มล้นสุขใจ

    เวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ของคืนเมื่อวานนี้ (25 มีนาคม 2561) หลังจากฉันจอดรถแวะที่ปั้มน้ำมัน เพื่อหาซื้อข้าวของเล็กน้อย จำพวกขนมของขบเคี้ยว เครื่องดื่ม อื่นๆ เพื่อทานเล่นระหว่างการเดินทางต่อ ฉันมองไปเห็นชายคนหนึ่ง ร่างกายมอมแมม ผมเผ้ายาวรุงรัง อายุราว 60 ปีเศษ กำลังคุ้ยเขี่ยล้วงหาเศษสิ่งของบางอย่างจากถังขยะบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ครั้นพอเขาหาสิ่งของที่เขาต้องการได้บ้างแล้ว เขาก็หันหลังกำลังจะจากๆที่ๆเป็นที่พึ่งเพียงแห่งเดียวที่เขามี

    บนความเงียบงัน พลันเสียงประตูรถ จากทางด้านหน้าของคนขับของรถยนต์กระบะคันหนึ่ง ที่จอดอยู่ข้างๆรถของฉันทางด้านซ้ายมือ พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มเก็บของที่เขาทำตกไว้ด้วยอาการรีบร้อน เสียงดังกุกกัก ดึงความสนใจให้ฉันหันไปมอง ชายหนุ่มผู้สวมเสื้อยืดสีขาวคอมีปก กางเกงสีดำ ท่าทางสะอาดสะอ้าน เรียบร้อย อายุราว  25 ปี กำลังวิ่งตามไปหาชายผู้สูงวัยผู้นั้น พร้อมกับยื่นถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่ข้างในมีข้าวของที่เขาพอจะหาได้ในรถยนต์ส่วนตัวในขณะนั้น จำพวก น้ำ อาหาร ขนมต่างๆ ที่เขาพอจะมีติดมาด้วย


   ชายทั้งสอง คุยกันสักครู่หนึ่ง ชายสูงวัยทำท่ายกมือไหว้ พยักหน้า พร้อมกับค้อมศรีษะลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณ ชายหนุ่มเดินกลับมายังรถกระบะคันสวยหรูของตนเอง ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่น

    จากนั้นฉันก็เข้าใจได้ว่าเกิดอันใดขึ้น *แต่ฉัน...
ไม่เข้าใจตนเอง ว่า… ทำไม? ฉันจึงมัวนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ ดูเหมือนจะไม่สนใจไยดี ได้แต่มองชายหนุ่มคนนั้นกระทำความดีด้วยการหยิบยื่นน้ำใจให้ผู้อื่นอย่างไม่รีรอ  ชั่งน่าละอายใจตนเองเหลือเกิน ที่ปล่อยให้ชายผู้สูงวัยคนนั้นเดินจากไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ฉันไม่ได้ทำสิ่งใดเลย

     จึงได้ขยับรถออกจากปั๊มฯ ค่อยๆกวาดสายตามองผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว ที่เขาตั้งโต๊ะไว้อยู่ริมทาง เลียบรอบข้างทางวนไปเรื่อยๆ เพื่อมองหาชายคนดังกล่าว แต่ก็ไร้วี่แวว...  จึงขับรถเลาะริมถนนใหญ่ต่อไปอีก บนข้างทางอันปราศจากแสงไฟ เหมือนใจของฉันที่มืดมัว มองหาหนึ่งชีวิตที่กำลังหิวโหย แต่ฉันนั้นอิ่มแปล้ไปด้วยความเห็นแก่ตัว ยามนั้นมีเพียงแค่แสงไฟ จากรถที่แล่นผ่านสัญจรไปมา สลับระคนกับความมืดบอดในใจของฉัน เป็นระยะๆ


    ท่ามกลางกระแสของแห่งความมืดมัวสลัวๆ แต่ก็มิได้สิ้นความพยายาม ทันใดนั้นเอง ฉันจึงเริ่มมองเห็นชายผู้นั้น กำลังจัดเตรียมที่นั่ง พร้อมกับนำอาหารที่เพิ่งได้มา อยู่แถวๆบริเวณป้ายรถเมล์ ด้วยการเอากระสอบปุ๋ย สีขาว พะรุงพะรัง กองไว้แล้วก็นำมันออกมาวาง ปูลงไปบนพื้นคอนกรีต ที่ชื้นหมาดๆ หลังจากโดนน้ำฝนโชลมลงเพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นานนัก

    ฉันเพ่งมองผ่านความมืดสลัวนั้นอีกครั้ง เห็นชายคนสูงวัย กำลังจะส่งอาหารเข้าปากด้วยความอิดโรย ฉันชูมือขึ้นพร้อมกับยื่นขนมปังยี่ห้อดี 1 ถุง ที่ฉันชอบรับประทานเป็นพิเศษ พร้อมส่งขนมปังนั้นให้ด้วยความกังวลใจ ระแวดระวัง เป็นห่วงรถยนต์ที่จอดติดเครื่องทิ้งไว้โดยไม่มีใครเฝ้า ซึ่งอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้

    *แต่ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของฉันนั้น ทำให้ฉันลืมทุกสิ่งทุกอย่างมัน คือ รอยยิ้ม... และมิตรภาพอันบริสุทธิ์ ของชายวัย 60 ปีเศษ หลังจากที่ฉันได้มอบขนมปังนั้นให้แล้วฉันก็จากไป

    ความรู้สึกผิด ที่คอยกระซิบบอก พร้อมทั้งความกังวลใจต่างๆ ได้อันตรธานหายไปสิ้น เหลือแต่ภาพรอยยิ้มของชายคนนั้น และความสุข อันเอิบอิ่มล้นใจของฉัน ตลอดการเดินทาง

ปล. ความสุขแบบเดียวกันนี้ ทุกคนสามารถหาได้ไม่ยาก หากลดละความเห็นแก่ตัวของตนลงบ้าง ตลอดจนคำแก้ตัวต่างๆ ที่คอยกระซิบ ปฏิเสธความรัก มิตรภาพ และความอื้ออาทร ที่พึงมีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการรู้จักใส่ใจผู้อื่นบ้าง

*ร่วมกันสร้างสรรค์ สำนึกดี ที่ตนเอง

         ศรีเปียก









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น